ในโลกของฟุตบอลที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและสถิติส่วนบุคคล เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ได้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สตาร์ดังจากลิเวอร์พูล ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงในสนาม
ในเกมที่ทีมชาติอียิปต์ครองเกมเหนือกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้รับหน้าที่สังหารจุดโทษลูกแรกและยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด ทำให้ทีมออกนำไปก่อน แต่ไฮไลต์ที่แท้จริงของเกมนี้กลับไม่ได้เกิดขึ้นจากประตูที่เขาทำได้เอง
เมื่ออียิปต์ได้จุดโทษอีกครั้งในช่วงท้ายเกม แทนที่จะเป็นเขาที่รับหน้าที่ยิงเพื่อเพิ่มสถิติส่วนตัวและไล่ตามสถิติของตำนาน ฮอสซัม ฮัสซัน ซึ่งทำไว้ 68 ประตู แต่ซาลาห์กลับตัดสินใจมอบโอกาสนี้ให้กับ โอมาร์ มาร์มูช เพื่อนร่วมทีม เพื่อให้มาร์มูชสามารถทำประตูแรกในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกได้สำเร็จ
การกระทำนี้ไม่ใช่เพียงแค่การส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีม แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึง ภาวะผู้นำ และ ความเสียสละ ที่อยู่เหนือกว่าความต้องการส่วนตัวของเขาเอง ซาลาห์ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การทำลายสถิติหรือสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง แต่เขาให้ความสำคัญกับความสำเร็จของทีมและกำลังใจของเพื่อนร่วมทีมมากกว่า
ปัจจุบัน ซาลาห์ทำไปแล้ว 54 ประตูในนามทีมชาติ เหลืออีกเพียง 14 ประตูก็จะทาบสถิติของ ฮอสซัม ฮัสซัน การตัดสินใจครั้งนี้ของเขาไม่ได้ทำให้สถิติของเขาใกล้เคียงกับตำนานได้เร็วขึ้น แต่กลับทำให้เขาได้ใจแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมอย่างท่วมท้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้เลย
เรื่องราวนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า เหนือกว่าชัยชนะและสถิติใด ๆ คือ "คลาส" และ "จิตวิญญาณแห่งการเป็นผู้นำ" ที่แท้จริงของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่พร้อมจะเสียสละเพื่อทีม ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกไม่เพียงแต่ชื่นชมในฝีเท้า แต่ยังเคารพในความเป็นมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ของเขาด้วยเช่นกัน


.jpg)






แสดงความคิดเห็น