เกมรุก – มีไอเดียแต่เปลืองโอกาส
เริ่มจากเกมรุก ต้องยอมรับว่าดูมีชีวิตชีวากว่าฤดูกาลก่อนหน่อย ทีมกล้าบุกเร็ว มีการขึ้นเกมน่าสนใจ แต่พอถึงจังหวะจบ กลับเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้น้อยมาก 3 เกมที่ผ่านมา มีโอกาสยิงรวม 58 ครั้ง ตรงกรอบแค่ 16 ครั้ง แถมได้ประตูจริง ๆ แค่ 4 ลูก และ 2 จาก 4 ลูกนั้นยังมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่ง ส่วนอีกลูกมาจากจุดโทษ
เกมที่คราเวน ค๊อตเทจ แมนยูเปิดเกมรุก 15 นาทีแรกโหมหนัก แต่กลับยิงไม่ได้ตามที่ควร ส่วนเกมล่าสุดกับเบิร์นลี่ย์ โอกาสยิงเยอะ ๆ ก็น่าจะได้ 5 ลูก แต่สุดท้ายยิงได้ 3 ลูกเท่านั้น
เกมรับ – ระบบ ‘หลังสาม’ ก็ยังมีรู
ปัญหาใหญ่คือเกมรับ แม้จะใช้ระบบหลังสาม แต่เสียประตูง่ายเหมือนเดิม จาก 9 ครั้งที่คู่แข่งยิงตรงกรอบ เสียไป 4 ประตู เกือบครึ่งเลยนะนี่! มิดฟิลด์ตัวรับชะลอเกมคู่แข่งไม่ค่อยได้ กองหลังยืนตำแหน่งผิด ๆ ผิด ๆ ไปหมด ส่วนผู้รักษาประตูเองก็ไว้ใจไม่ได้มาก
ลูกเซ็ตพีซนี่ยิ่งหนัก ชัดสุดคือเกมกับเบิร์นลี่ย์ ลูกทุ่มง่าย ๆ ก็จัดการไม่ดี จังหวะเตะมุมก็เคลียร์ไม่ขาด
กุนซือ – รูเบน อโมริม ยึดติดปรัชญาเกินไป
ปัญหาอีกด้านคือโค้ช รูเบน อโมริม ยังยึดติดปรัชญาของตัวเองสุด ๆ การแก้เกมไม่มีลูกพลิกแพลง เปลี่ยนผู้เล่นยังถูกคู่แข่งอ่านง่าย พอตกอยู่สถานการณ์คับขัน มุกเดิมคือส่ง แม็กไกวร์ บอมบ์เข้าใส่
เพราะแบบนี้ ชนะใครยาก ต้องลุ้นเหนื่อยตลอด และฤดูกาลนี้ยังไม่เคยชนะ 2 เกมติดเลย
ผู้เล่นเด่น – แต่ก็เจ็บไปหลายคน
โชว์ฟอร์มดีสุดคือ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ เปิดบอลและยิงประตูดี ส่วน มาเตอุส คุนญ่า กับ เมสัน เมาท์ ก็มีทีเด็ด แต่ดันเจ็บไปเรียบร้อย
ปัญหามิดฟิลด์ตัวกลาง
บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้ เล่นไม่ละเอียด ชอบวัดได้-เสียมากไป เสี่ยงเสียบอล ส่วนกาเซมิโร่ก็ยืนครบ 90 นาทีไม่ได้ มานูเอล อูการ์เต้ก็มีแต่ไล่เตะคู่แข่งและโดนใบเหลือง
สรุปเลยว่า 3 เกมแรกของแมนยู ฤดูกาลนี้ มีดีตรงเกมรุกพอให้ลุ้น แต่ปัญหาทั้งเกมรับ กลางสนาม และแท็กติกโค้ช ทำให้ทีมยังไปได้ไม่ไกล ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะปรับได้ทันหรือไม่







แสดงความคิดเห็น