ลอนดอนดาร์บี้แมตช์ครั้งนี้เดือดสมการรอคอย เมื่อ “ปืนใหญ่”
อาร์เซน่อล เปิดบ้านจัดหนักใส่คู่อริร่วมเมืองอย่าง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
ถล่มไปแบบไม่ไว้หน้า 4-1 โดยมีไฮไลท์จาก เอเบเรชี่
เอเซ่ ที่ระเบิดฟอร์มกดแฮตทริกใส่ทีมเก่าในแมตช์สุดเข้มข้นนี้
แม้จะเป็นการเล่าเหตุการณ์ในเชิงวิเคราะห์จากผู้เขียน
แต่ก็ต้องบอกเลยว่าภาพรวมของเกมนี้ดุดัน เร้าใจ และสะท้อนคุณภาพทีมได้อย่างชัดเจน
1. หนึ่งในชัยชนะเหนือคู่แค้นที่ง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์ลอนดอนดาร์บี้
แม้ โธมัส แฟร้งค์ จะเลือกปรับระบบมาใช้กองหลัง 3 คนแบบเฉพาะกิจเพื่ออุดแนวรุกอาร์เซน่อลอย่างสุดความสามารถ
แต่กลับไม่สามารถต้านทานพายุเกมรุกที่ถาโถมเข้ามาแบบไม่หยุดพักได้เลย
การเข้าทำที่หลากหลายของอาร์เซน่อลทำให้เกมนี้กลายเป็นหนึ่งในการพบกันที่
ปืนใหญ่เหนือกว่าแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มากที่สุดครั้งหนึ่ง
2. เกมรุกปืนใหญ่ “ดุดัน–กะซวกไส้”
บุกข้างเดียวจนสเปอร์สไม่มีจังหวะสวนกลับ
อาร์เซน่อลคุมเกมบุกตลอดแทบทั้งแมตช์ ครองบอลเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
พร้อมสร้างสรรค์เกมรุกชนิดฝ่ายตรงข้ามรับมือแทบไม่ไหว
ที่น่าประทับใจคือทั้ง 4 ประตูที่ได้มานั้น ไม่ได้พึ่งลูกตั้งเตะเลยสักครั้งเดียว
แต่เป็นการทำประตูจากรูปแบบการเข้าทำที่ไหลลื่นทั้งสิ้น
แสดงให้เห็นถึงคุณภาพเกมรุกที่มีหลายมิติและอันตรายยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
3. ไร้ “กองหน้าตัวเป้า” ไม่ใช่ปัญหา – ระบบ False
9 ทำงานอย่างสวยงาม
การไม่มี วิคตอร์ เยอเคเรส ให้ใช้งานในเกมนี้
ไม่ได้ทำให้จังหวะบุกของปืนใหญ่ลดลงแม้แต่น้อย
ตรงกันข้าม เมื่อ มิเกล เมริโน่ ถูกดันขึ้นไปเล่นบทบาท False
9 เขากลับยิ่งช่วยให้ทีมไหลลื่นกว่าเดิม
เพราะสามารถถอยลงมาช่วยปั้นเกม ทำทางให้ผู้เล่นตำแหน่งอื่นทำประตูได้สบาย
ฤดูกาลนี้อาร์เซน่อลกระจายประตูได้ทั่วทั้งทีม
ไม่ต้องพึ่งพาคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ สะท้อนความ “ครบเครื่อง”
แบบทีมลุ้นแชมป์อย่างแท้จริง
4. ไฮไลท์เดียวของสเปอร์ส: ริชาร์ลิซอน
ซัดประตูสุดงามระดับต้องยอม
แม้เกมนี้ “ไก่เดือยทอง” จะไม่มีอะไรให้ชื่นใจมากนัก
แต่ประตูตีไข่แตกของ ริชาร์ลิซอน นั้นต้องปรบมือให้จริงๆ
ลูกชิพจากระยะราว 40 หลา ข้ามหัว ดาบิด ราย่า
เสียบตาข่ายแบบสุดเหนือชั้น เป็นจังหวะที่ควรค่าแก่การบันทึก
แม้สุดท้ายจะเป็นเพียงลูกปลอบใจ
เสียดายแค่เจ้าตัวไม่ได้ฉลองแบบถอดเสื้อพร้อมน้ำตาซึมให้สมกับความงามของประตูนั้น!
5. ผ่าน 12 นัด – ฟอร์มแบบนี้
“อาร์เซน่อลมีดีพอคว้าแชมป์”
ตามบทวิเคราะห์ที่ผู้เขียนให้มานั้น
ชัดเจนว่าปืนใหญ่กำลังอยู่ในจุดที่ “ครบทุกด้าน”
- เกมรับแข็งแกร่ง แพ้ยาก
- เกมรุกทรงพลัง ยิงได้จากทุกตำแหน่ง
- คู่แข่งอย่าง แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มไม่นิ่ง
- บรรดาทีมไล่ล่าแชมป์อื่น ๆ
ฟอร์มไม่เสถียรเช่นกัน
เมื่อมองภาพรวมแล้ว
ไม่มีเหตุผลอะไรที่อาร์เซน่อลจะไม่ก้าวขึ้นไปเป็นทีมเต็งหนึ่งแบบเต็มตัว
ส่วน เชลซี ที่ยังต้องฟื้นทีมอีกมาก… หากเป็นแฟนปืนตอนนี้คงได้แต่ ยักไหล่
ยิ้มมุมปาก และรอวันชูถ้วย
สรุป: ปืนใหญ่กำลังเข้าใกล้คำว่า “สุดยอดทีมแห่งฤดูกาล”
แมตช์ที่ชำแหละสเปอร์ส 4-1 ตามเรื่องเล่าครั้งนี้
คือภาพสะท้อนความโหดเหี้ยมของอาร์เซน่อลที่กำลังพัฒนาเป็นทีมแชมป์อย่างสมบูรณ์แบบ
เกมรับเหนียว, เกมรุกดุดัน, ระบบทีมลงตัว, กระจายประตูทั่วร่าง —
ทุกอย่างบอกเหมือนกันว่า
ฤดูกาลนี้ ปืนใหญ่มาเพื่อคว้าแชมป์จริงๆ
ยิง-จ่ายไม่ยั้ง! 'เมสซี่' สร้างสถิติใหม่ MLS พาอินเตอร์ ไมอามี ถล่มคู่แข่ง










แสดงความคิดเห็น