ปรัชญาการทำทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว คือการปลุกปั้น นิวคาสเซิล ให้กลายเป็นทีมที่เน้น ความเข้มข้นทางกายภาพ และ การเล่นที่ดุดัน (Aggressive Football) ซึ่งเปลี่ยนจากทีมหนีตกชั้นมาเป็นทีมที่น่าเกรงขามในกลุ่มหัวตาราง โดยมีระบบหลักคือ 4-3-3 ที่เน้นการใช้พลังงานสูง (High Intensity) และความเร็วในการเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุก โดยมี บรูโน่ กีมาไรส์ เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างเกมจากแนวหลัง
หัวใจสำคัญในแนวทางการเล่นคือ การเพรสซิ่งที่มีประสิทธิภาพ พวกเขาสลับใช้ มิด-บล็อก เพื่อดึงคู่แข่งเข้าสู่พื้นที่อันตราย ก่อนจะทำการ สปริงกับดัก แย่งบอลกลับมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งต้องอาศัยกองกลางที่แข็งแกร่งอย่าง โจเอลินตัน ในการขับเคลื่อน นอกจากนี้ เกมรุกยังเน้นการใช้ ความกว้างของสนาม ผ่านฟูลแบ็กที่เติมเกมสูง และใช้ทักษะการดวล 1 ต่อ 1 ของปีกอย่าง แอนโธนี่ กอร์ดอน พร้อมกับใช้ ลูกตั้งเตะ เป็นอาวุธสำคัญ
ในส่วนของ การแก้เกม นั้น ฮาวให้ความสำคัญกับการปลูกฝัง ทัศนคติแบบนักสู้ และความพร้อมทางกายภาพผ่านการฝึกซ้อมที่เข้มข้น เพื่อให้นักเตะสามารถรักษาความดุดันไว้ได้ตลอด 90 นาที นอกจากนี้ เขายังมีความเชี่ยวชาญในการ ปรับบทบาทผู้เล่น ให้เข้ากับระบบ เช่น การเปลี่ยนตำแหน่งของ โจเอลินตัน เพื่อเพิ่มอิทธิพลต่อเกมในแดนกลาง
สำหรับการบริหารจัดการระหว่างเกม มักเป็นการเปลี่ยนตัวแบบ ปฏิกิริยาต่อสถานการณ์ (Reactive) โดยมีเป้าหมายหลักคือการ รักษาความสดใหม่และคงความเข้มข้น ของการเพรสซิ่งไว้ หรือใช้ผู้เล่นที่มีความเร็วเข้ามาโจมตีคู่แข่งที่อ่อนล้าในช่วงท้ายเกม โดยสรุปแล้ว กลยุทธ์ของนิวคาสเซิลคือการใช้ฟุตบอลพลังงานสูงที่เน้นความดุดันในการเพรสซิ่งและการเปลี่ยนเกมที่รวดเร็ว ผสานกับการแก้เกมด้วยวินัยทางแท็กติกและความฟิตที่เหนือกว่า.
โรดริโก้ ขอเปลี่ยนบทบาทเป็น "กองกลางตัวรุก" หวังได้ลงเล่นสม่ำเสมอใน เรอัล มาดริด
สกอตแลนด์ U21 ถล่ม ยิบรอลตาร์ 12-0!
🎉 สมัครสมาชิกวันนี้!
🌟 ลุ้นรับสิทธิพิเศษและร่วมสนุกกับกิจกรรมดีๆ มากมาย
📲 คลิกที่นี่เลย 👉 https://line.me/R/ti/p/@pz99






إرسال تعليق